Support
จำหน่ายสินค้า 4Life
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ถึงเวลา “Boost ภูมิคุ้มกัน”

วันที่: 2020-12-11 20:07:42.0

 

จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายหากภูมิคุ้มกันถดถอย
             หนึ่งในเซลล์ภูมิคุ้มกันที่สำคัญและมีปริมาณมากที่สุด คือ เซลล์เม็ดเลือดขาว ทำหน้าที่เหมือนทหารเฝ้าระวังคอยตรวจหา และดักจับสิ่งแปลกปลอมหรือไวรัสที่จะเข้าสู่ร่างกาย รวมทั้งกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเหล่านั้น เมื่อภูมิคุ้มกันถดถอยทำให้ประสิทธิภาพในการกำจัดสิ่งแปลกปลอม หรือเชื้อโรคลดลง หรืออาจใช้เวลานานมากขึ้นในการกำจัดเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้สิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าไปทำร้ายเซลล์ต่างๆ รวมทั้งเกิดการตอบสนองต่อต้าน เกิดเป็นสาเหตุของอาการต่างๆตามมา ซึ่งความรุนแรงขึ้นกับระดับภูมิคุ้มกันของแต่ละคนในการตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคที่เข้ามา

 

อายุยังน้อยแปลว่าภูมิคุ้มกันยังแข็งแรง...จริงหรือ?
             ผลงานการวิจัยชิ้นล่าสุดของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไว้ว่า อายุที่เพิ่มมากขึ้นมีส่วนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันที่ถดถอย ซึ่งสอดคล้องกับความเสี่ยงเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย ซึ่งก็หมายความว่ายิ่งอายุมากขึ้นร่างกายก็จะยิ่งบอบบาง เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่ลดลง และเซลล์ในร่างกายที่เสื่อมลงตามวัย ประกอบกับมีโรคประจำตัว เช่นโรคหลอดเลือดหัวใจ ไขมัน ความดัน หรือเบาหวาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย ทำให้ศักยภาพในการต้านทานโรคต่ำกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ภูมิคุ้มกันที่ถดถอยไปตามอายุร่างกายยังส่งผลไปถึงระยะเวลาการฟื้นตัวของร่างกายหลังได้รับเชื้อเป็นไปได้ช้าอีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสถิติของผู้เสียชีวิตจากโรคระบาด หรือจากการเจ็บป่วย มักเป็นผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงแม้ว่าอายุยังน้อย เป็นคนหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยเรียน หรือวัยทำงานก็มีโอกาสที่ระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงได้ เพราะปัจจัยที่ทำให้ภูมิคุ้มกันถดถอยนั้นไม่ได้มีเพียงแค่อายุเท่านั้น
             จริงอยู่ว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้นนั้นมีผลต่อความถดถอยของภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่อาจไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป มีผู้สูงอายุหลายคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและมีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ร่างกายไม่ทรุดโทรม ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันยังทำงานได้ดีอยู่ ผิดกับคนอายุน้อยหลายคนที่ถึงแม้จะมีสภาพร่างกายที่ดีกว่า ภายนอกดูแข็งแรง แต่ความจริงแล้วก็อาจมีระบบภูมิคุ้มกันถดถอยได้โดยไม่รู้ตัว เนื่องจากรูปแบบและพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ละเลยการออกกำลังกาย มีความเครียดสะสม ทานอาหารรสจัด ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทานอาหารที่ไม่มีความหลากหลายทำให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอต่อความต้องกายของร่างกาย เป็นต้น

 

 

ถึงเวลา “Boost ภูมิคุ้มกัน”
             เมื่อรู้แล้วว่าการมีภูมิคุ้มกันที่ถดถอยนั้นสามารถส่งผลเสียต่อร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆได้ เราจึงควรศึกษาวิธีการฟื้นฟูภูมิคุ้มกันให้กลับมาแข็งแรง พร้อมรับมือกับโรคระบาด หรือโรคภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่ง “How to Boost ภูมิคุ้มกัน” ด้วยตัวเอง มีดังนี้

 

ควบคุมน้ำหนัก
          การปล่อยตัวให้น้ำหนักเกินกว่ามาตรฐานมีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และมีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหอบหืด และโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารรสจัด ตลอดจนอาหารหมักดอง แล้วหันมาทานอาหารให้หลากหลาย โดยเน้นทานผัก ผลไม้ให้มากขึ้น เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานดีขึ้น และยังลดระดับตัวชี้วัดการอักเสบในร่างกายลงได้อีกด้วย

 

หมั่นออกกำลังกาย
          การออกกำลังกายช่วยให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายแข็งแรงและทำงานได้ดีขึ้น รวมไปถึงเซลล์เม็ดเลือดขาว และยังช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวได้ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันผ่านการผลิตสารเอ็นดอร์ฟินได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน แต่สำหรับผู้สูงอายุแนะนำให้เพิ่มการออกกำลังกายแบบเสริมการทรงตัว เพราะจะช่วยฝึกกายควบคุมอวัยวะส่วนต่างๆให้ทำงานประสานกันได้ดีขึ้น และยังเป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อ ข้อ และสติไปพร้อมกัน

 

บำบัดร่างกายด้วยการนอนให้พอ
          การนอนหลับอย่างเพียงพอ เป็นสิ่งที่จะช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดีที่สุด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกจึงแนะนำว่าคนเราควรนอนหลับสนิทให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง อย่าอดนอน หรือนอนดึก เพราะการนอนไม่พอมีผลต่อการสร้างเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน จากผลงานการวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับในต่างประเทศ พบว่าเม็ดเลือดขาวจะทำงานได้ดีมากขึ้นในขณะที่นอนหลับสนิท การอดนอนบ่อยๆ จึงมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันถดถอยลง มีโอกาสที่จะป่วยง่าย รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายชนิด เช่น โรคสมองเสื่อม โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ

 

ผ่อนคลายความเครียด
          รู้หรือไม่.... ‘ความเครียด’ เป็นจุดเริ่มต้นของความเสื่อมที่ทำร้ายระบบต่างๆ ภายในร่างกายอย่างร้ายกาจคนที่มีความเครียดสะสม มีความคิดแง่ลบบ่อยๆ มีความวิตกกังวล หรือผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า จะไปเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนเครียด หรือที่เรียกว่า ‘ฮอร์โมนคอร์ติซอล’ มากเกินไป ซึ่งฮอร์โมนนี้มีฤทธิ์ในการกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆลดลง จึงเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเครียด ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง เมื่อจิตใจแจ่มใสสมองจะสั่งให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานได้มากขึ้น กระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นตามไปด้วย

 

เสริมภูมิคุ้มกันที่ดีด้วยสารอาหารที่จำเป็น

 

 

 

 

ID Line: @4Lifebkk (มี@ด้วยครับ)

 

 

คลิก "เพิ่มเพื่อน" ปุ่มเขียว